วันพุธที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

C++ - การสร้างไดนามิกอาร์เรย์

ตัวอย่างการสร้างเมทริกซ์ โดยใช้ Dynamic Memory Allocation ใน C++

int** array = new int*[dim];
for(int i = 0; i < dim; i++)
array[i] = new int[dim];

จากโค๊ดตัวอย่างและรูป จะเห็นได้ว่าเราสร้างอาร์เรย์ของพอยน์เตอร์ที่ชี้ int (int*[]) มีขนาดเท่ากับ dim (ในรุป dim = 3 ) โดยที่มีตัวแปร array เป็นชนิด พอยน์เตอร์ที่ชี้พอยน์เตอร์ที่ชี้ int (int**) จากนั้นจึงได้สร้างอาร์เรย์ของ int ขนาด dim (dim = 3) โดยกำหนดค่าให้กับ element แต่ละตำแหน่งของอาร์เรย์ จึงได้เมทริกซ์ขนาด dim*dim (3x3) ดังรูป

วันพุธที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

มนุษย์ไฟฟ้า ใช้ร่างกายเป็นสื่อไฟฟ้า ในรายการตาสว่าง



พอดีผมไปเห็นรายการตาสว่างที่ช่องเก้าไปเอาลุงแก่ ๆ คนหนึ่ง มาพร้อมกับอาจารย์มหาลัยแห่งหนึ่ง มาโชว์การแสดงให้ไฟฟ้าไหลผ่านเล่น ๆ ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันว่าแกทนได้ไง แต่เห็นวิธีการทดสอบแล้วรู้เลยว่ากระแสมันไม่ได้เยอะขนาดนั้น คนปกติแค่กระแส 100 mA ไหลผ่านก็จะตายแล้ว แต่ที่เขาพยายามจะแสดงให้ดูให้เห็นว่าใช้หลอดไฟฟ้า 1000 วัตต์มีกระแสไหลผ่าน 3.6 A นั้น มันไม่ใช่กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านลุงจริง ๆ หรอก เพราะว่าลุงแกแตะสายไฟฟ้าตัวนำแค่นั้นเอง ก็เหมือนกับนกเกาะสายไฟฟ้าเปลือยข้างเดียวนั่นแหละ กระแสส่วนใหญ่มันก็ต้องไหลผ่านลวดตัวนำไฟฟ้าที่มีความต้านทานต่ำกว่าอยู่แล้ว

มนุษย์ไฟฟ้า ใช้่ร่างกายเป็นสื่อไฟฟ้า ในรายการตาสว่าง มันต้องปล่อยให้กระแสไหลผ่านแบบนี้ (แต่คิดว่ากระแสต้องลดลงมามากเพราะความต้านทานของลุงแก และหลอดไฟฟ้าคงไม่ติดเพราะแรงดันมาดร็อปที่ลุงนี่แหละ มันต้องเพิ่มแรงดันเข้าไปอีก 5555)

มนุษย์ไฟฟ้า ใช้่ร่างกายเป็นสื่อไฟฟ้า ในรายการตาสว่าง แต่ยังไงก็อึ้งกับแกอยู่ดีที่แกเอามือจับปลั๊กไฟสองรูได้เฉยเลย เฮ้อ.... ไฟช๊อตมาก ๆ ระวังเป็นหมันนะลุง

วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2552

Robocode Thailand Contest 2009


ฝากแจ้งข่าวนิดนึง เรื่องการแข่งขัน Robocode Thailand Contest 2009 ใกล้้จะปิดรับสมัครวันที่ 20 มค. 52 นี้แล้ว สำหรับผู้ที่สนใจแต่ยังไม่สมัครให้รีบ ๆ หน่อยนะครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์ข้างล่างครับ รับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิดแค่ 10 นาทีก็สร้างหุ่นยนต์ได้แล้ว:

http://www.vcharkarn.com/robocode/
http://cubiccreative.org/crnt07/help.html
http://robocode.sourceforge.net/
http://www.vcharkarn.com/varticle/37171
http://www.vcharkarn.com/varticle/38351
http://cubiccreative.org/crnt07/help/index.htm
http://robocode.sourceforge.net/docs/robocode/

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

ปืนไฟฟ้า

อาวุธสมัยนี้น่ากลัวจริง ๆ อ่านข้อมูลต่อได้ที่ Taser




สามารถสร้างเองได้จากกล้องถ่ายรูป(ที่มีแฟลช)


Make A Taser From A Camera - Click here for more free videos

วันเสาร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2552

เกมฝึกสมอง Crayon Physics Deluxe




เกมน่ารัก ๆ สำหรับเด็ก (แต่ผู้ใหญ่ยังงงเลย)

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2552

ความสุขของกะทิ : งามพรรณ เวชชาชีวะ


ความสุขของกะทิ : งามพรรณ เวชชาชีวะ: "ความสุขของกะทิ : งามพรรณ เวชชาชีวะ

กะทิเป็นเด็กหญิงวัยสิบขวบ อยู่กับตายายที่บ้านริมคลอง กะทิแอบคิดถึงแม่อยู่เงียบๆ แต่กะทิก็เป็นเด็กน่ารักกิริยาดี และมีวุฒิภาวะพอจะไม่ถามไถ่ให้ผู้ใหญ่ลำบากใจ เธอจึงเก็บความรู้สึกคิดถึงและใคร่รู้เกี่ยวกับแม่เอาไว้แต่ในใจเพียงลำพัง เรื่องราวในเล่มเป็นการค้นพบปริศนาถึงชิ้นส่วนที่หายไปในชีวิตของกะทิ

หนังสือเล่มนี้ใช้ภาษาสวย เขียนบรรยายถึงฉากและเหตุการณ์ต่างๆ ได้ดี ถ้อยคำในเล่มอ่านได้เพลิดเพลินและเย็นชื่นหัวใจ ผู้เขียนเล่าเรื่องโดยแบ่งเป็นภาคใหญ่ๆ คือบ้านริมคลอง บ้านชายทะเล และบ้านกลางเมือง ที่แต่ละภาคบอกเรื่องราวของต่างช่วงเวลาที่เป็นปริศนาในชีวิตกะทิ เริ่มตั้งแต่ปัจจุบัน ย้อนไปให้ได้รู้จักอดีต ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจเลือกทางเดินในอนาคตของตัวละคร

ภาษาการเล่าที่ดีทำให้บ้านริมคลองมีบรรยากาศธรรมชาติชนบทที่สวยงาม ใสสะอาด สงบร่มรื่นน่าอยู่ บ้านชายทะเลมีวิวสวย และบ้านกลางเมืองที่หรูหราทันสมัย เรียบร้อยพร้อมสรรพทุกสิ่งไป การเล่าเรื่องนี้ไม่มีบทพูด เป็นแต่เพียงการพรรณนาเรื่องราว แต่ก็มีเสน่ห์ที่อ่านได้รื่นรมย์ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากหาอะไรเบาๆ อ่านให้ชื่นใจได้ความสุขเล็กๆ ประกายขึ้นในใจ หนังสือเล่มนี้มีส่วนเศร้าด้วยก็จริง แต่ก็เป็นความเศร้าที่งดงาม ทำให้รู้สึกดีมากกว่าจะหม่นหมองหัวใจ

ความสุขของกะทิเป็นผลงานเขียนเล่มแรกของผู้เขียน ซึ่งนักอ่านคุ้นเคยกับเธอในฐานะนักแปล แต่แม้จะเป็นงานเขียนเล่มแรก ก็เป็นงานที่แสดงว่าผู้เขียนสามารถทางภาษาและการเล่าไม่น้อยเลย กะทิเป็นเด็กหญิงที่น่ารัก ทำให้คนอ่านนึกเอ็นดูเธอได้ตั้งแต่บทแรกๆ และคนอ่านคนนี้ก็ยิ่งรักกะทิเมื่อรู้ว่าหนังสือที่เธอโปรดปรานคือ บ้านที่มีพ่อหกสิบคน

การจัดรูปเล่มและภาพประกอบของหนังสือก็ทำได้น่ารักสวยงามอย่างลงตัว จึงเป็นหนังสือเล่มเล็กน่ารักที่ชวนอ่านและน่าเก็บ หนังสือเล่มนี้อ่านได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งผู้เขียนเคยกล่าวไว้ว่าผู้อ่านต่างวัยก็จะอ่านได้โดยตีความต่างระดับกันไป (จุดประกายวรรณกรรม ฉบับวันที่ 27 ธันวาคม 2546)

คนอ่านผู้ใหญ่คนนี้อดสังเกตไม่ได้ว่าผู้คนที่แวดล้อมกะทิอย่างใกล้ชิด ล้วนแต่มีชีวิตที่ดีงาม ไม่ว่าจะเป็นชาติตระกูล การศึกษา ความสามารถในการประกอบอาชีพการงาน ครอบครัวและคนใกล้ชิดของกะทิคุ้นเคยกับต่างประเทศอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในต่างประเทศ การทำงานกับต่างประเทศ คนอ่านจะได้รู้ในไม่ช้าว่าตายายของกะทิที่อยู่ในบ้านริมคลอง แม้จะใช้ชีวิตตามแบบชนบท แต่ก็เป็นผู้ที่มีความรู้ มีฐานะดี มีชาติตระกูล มีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวกับต่างประเทศ แม้แต่หลวงลุงกับพี่ทอง ศิษย์วัด ก็ได้เดินทางไปต่างประเทศ เนื่องจากญาติโยมนิมนต์ไว้ให้ไปอเมริกา หลวงลุงจึงพาพี่ทองไปเปิดหูเปิดตาประกอบกับหาลู่ทางเรียนต่อ ซึ่งพี่ทองมีความใฝ่ฝันจะเรียนถึงขั้นปริญญาเอก และวางแผนว่าจะสอบชิงทุนไปเรียนต่างประเทศเมื่อจบมัธยมหก

กะทิแวดล้อมด้วยความรักเต็มเปี่ยม และมีผู้คนที่แสนดีรอบข้าง เธอจึงมีหัวใจที่งดงามอย่างลึกซึ้งอยู่ภายใน ตัวละครที่มีด้านลบบ้างในเรื่อง ก็ปรากฏตัวเพื่อให้เห็นภาพความเพียบพร้อมของกะทิให้ชัดเจนยิ่งขึ้น คนอ่านพอเห็นได้ว่ากะทิจะดำเนินรอยตามความรุ่งโรจน์และเป็นผู้หญิงเก่งที่หัวใจงดงามแสนดีในอนาคต แม้ปัจจุบันเธอจะเรียนโรงเรียนวัด อันเป็นโรงเรียนเดียวกับพี่ทอง ลูกศิษย์วัด แต่ก็เชื่อได้ว่าอีกไม่นาน กะทิจะไปเรียนในยุโรปหรืออเมริกา

โลกของกะทิสมบูรณ์พร้อมเช่นนี้แล้ว เธอจึงมีแต่ความสุข แม้ว่าชีวิตของเธอย่อมมีความทุกข์เช่นเดียวกับปุถุชนทั่วไป และทุกข์ของเธอก็สาหัสหนักหนาไม่ใช่น้อย แต่ความทุกข์ของกะทิก็ยังเป็นความงดงาม เป็นความดีงามยามรำลึกถึง เป็นความเศร้าที่สวยและโรแมนติก

หนังสือเล่มเล็กนี้อ่านได้เพลินและน่ารักไม่น้อยเลย ชีวิตที่สมบูรณ์พร้อมของกะทิ ย่อมทำให้โลกของกะทิเปี่ยมความสุขและดีงามอย่างลึกซึ้งนัก

ข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ความสุขของกะทิ
* ความสุขของกะทิ ได้ซีไรต์
* คำประกาศของกรรมการคัดเลือกซีไรต์ ต่อเรื่อง ความสุขของกะทิ
* ความสุขของกะทิ จะสร้างเป็นหนัง
* ความสุขของกะทิ โกอินเตอร์


เกี่ยวกับผู้เขียน งามพรรณ เวชชาชีวะ เกิดที่ลอนดอน สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรการแปลชั้นสูงจากบรัสเซลส์ เป็นเจ้าของและบรรณาธิการนิตยสารเพื่อนใหม่ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทซิล์คโรดพับบลิเชอร์ เอเยนซี จำกัด เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์วรรณกรรมให้นักเขียนทั่วโลก มีผลงานแปลจากภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลีกว่า 15 เรื่อง

ความสุขของกะทิ : งามพรรณ เวชชาชีวะ
ISBN 974-7597-79-9 แพรวเยาวชน ๑๒๘ หน้า ราคา ๑๐๕ บาท

Copyright © 2004 faylicity.com

จักรวาลนี้กว้างใหญ่นัก มนุษย์ตัวจ้อยจะมีอำนาจอะไร เพียงแหงนมองฟ้าก็ดูจะปลดศักดาและความมุ่งหวังเกินตัวให้หมดสิ้นได้ในบัดดล เหลือเพียงหัวใจดวงเล็กๆ ในอกที่เต้นอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวและใฝ่หาความสุขตามอัตภาพ ไม่ต้องการสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องการสิ่งใดที่อยู่ไกลตัว

-- งามพรรณ เวชชาชีวะ, ความสุขของกะทิ"

วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Acer Aspire One: การใช้งาน Linpus Linux Lite (Fedora 8) และเพิ่มความสามารถให้ไม่แพ้(หรือดีกว่า) Windows XP

เนื่องจากว่าผมมีโอกาสได้ทดลองใช้งาน ลินปุสลินุกซ์ไลท์ (Linpus Linux Lite) ที่มาพร้อมกับ Acer Aspire One มาระยะหนึ่ง (ประมาณเกือบสัปดาห์) รู้สึกว่าใช้งานได้ดีมาก เปรียบเทียบกับก่อนหน้านั้นที่เคยใช้ (ของคนอื่น) ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ลง วินโดวส์เอ็กซ์พี (Windows XP) แรู้สึกว่าไม่ค่อยประทับใจเพราะว่ามันช้ามาก ๆ (เมื่อเทียบกับพีซี หรือโน๊ตบุ๊คปกติ)
และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมก็มีโอกาสได้มาครอบครองซะคราวนี้จึงได้เล่นอย่างจริงจังซะที ด้วยพอมีความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อยู่บ้าง ผมจึงจับมันมาลงลีนุกซ์ซะเลย ซึ่งพอลงแล้วรู้สึกได้เลยว่าความเร็วเพิ่มขึ้นอีกเยอะ(โดยเฉพาะตอนบู๊ตให้พร้อมใช้งาน ใช้เวลาไม่ถึง ๑๐ วินาที) การใช้งานเบราเซอร์ Firefox ก็รวดเร็วทันใจ ไม่มีหน่วงเวลาเมื่อใช้แท็บมาก ๆ (ปกติผมใช้งานแต่ละครั้งจะเปิดแท็ปไว้ประมาณ ๒๐ แท็บ) แต่ก็มีหลายอย่าง ที่รู้สึกอึดอัดเพราะว่าผมปรับแต่งอะไรมันไม่ได้เลย
ดังนั้นผมจึงได้พยายามศึกษาข้อมูลที่จะปรับแต่งให้เจ้า Aspire One ตัวน้อยของผมใช้งานได้ดีขึ้น ไม่แพ้เครื่องใหญ่ ๆ ซึ่งคิดไปแล้วถ้ายังใช้ Windows XP นี่ยังไงเรื่องความเร็วก็สู้เขาไม่ได้ เพราะรุ่นที่ผมมีมันเป็นรุ่น A110 เป็นรุ่นที่เล็กสุด (แรม 512 แล้วก็ SSHD แค่ 8GB เอง -_-") ก็เลยต้องจัดการกับเจ้าลีนุกซ์นี่แหละครับ เป้าหมายหลักของผมคือ "ผมเคยใช้วินโดวส์ทำอะไรได้ ลีนุกซ์ของผมก็ต้องทำได้เหมือนกัน"
หลังจากที่ได้เล่นและค้นหาข้อมูลได้ลองผิดลองถูกอะไรมาหลายอย่าง (จนต้องลงใหม่ไปรอบนึง) ก็เลยอยากแบ่งปัน และแลกเปลี่ยนความรู้กับคนอื่น ๆ ครับ มาดูรูปกันก่อน...


สภาพภายนอกยังดูดี (หรือเปล่า)


บลูทูธยูเอสบี (ซื้อมาจากพันธ์ทิพย์ครับ)


หน้าจอปกติของผม ลงโปรแกรมไปเยอะเหมือนกัน



ภาษาจีนก็ลงได้ครับ (เอาไว้แชตกับสาว ^_^)


กำลังต่อโมเด็มมือถือโนเกียครับ


ส่วนที่ผมได้ปรับแต่งไปแล้วมีดังต่อไปนี้ครับ

  1. เพิ่มแอดวานซ์เมนูเวลาคลิกขวาที่หน้าเดสก์ท๊อป (อันนี้ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่)
  2. เพิ่มภาษาไทย หรือภาษาอื่น ๆ (ไปดาวน์โหลดมาจากเว็บของเอเซอร์ หรือว่าเรียก Live Update เอา)
  3. ลงโปรแกรมต่าง ๆ เช่น Skype (โปรแกรมวีดีโอแช็ต) Picasa (โปรแกรมจัดการรูปภาพ ผมว่ามันดีกว่าตัวที่แถมมานะครับ) VLC (โปรแกรมดูหนัง ดูได้หลายฟอร์แมตครับ) และอื่น ๆ อีกมากมาย ตามความโลภ ๕๕ เพราะโปรแกรมของลีนุกซ์ที่ผมใช้ทั้งหมดเป็นฟรีแวร์ (อันนี้บางตัวก็ลงยาก บางตัวก็ง่าย แต่ต้องเขียนคอมมานด์ในเทอร์มินอลด้วยนะครับ)
  4. เพิ่มเติมไอคอนโปรแกรมที่ผมพึ่งลงใหม่ได้
  5. เซ็ตอัพ USB Modem กับโทรศัพท์ Nokia E61 ของผม ให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ (อันนี้ก็ยากขึ้นมาอีกหน่อย)
  6. เซ็ตอัพ Bluetooth USB หลังจากที่ลิงค์โทรศัพท์ผ่าน USB ได้แล้วยังไม่พอใจ (ไม่อยากพกสายลิงค์ไปไหนมาไหนด้วย) ก็เลยไปหา USB Bluetooth Dongle ตัวเล็ก ๆ ราคาร้อยกว่าบาท ซื้อที่พันธ์ทิพย์ แล้วก็มาเซ็ตอัพ (อันนี้ยาก เพราะถึงกับต้องคอมไพล์เคอร์เนลใหม่)
  7. อื่น ๆ .... (อ่านได้จาก http://www.linpusone.com)
รายละเอียดที่ผมได้ปรับแต่งไปแล้วในแต่ละข้อจะสรุปแล้วมาเขียนให้เป็นข้อ ๆ ใน LinpusOne นะครับ

RSK